หลังจากเทศกาลกินเจผ่านไป มีการบำเพ็ญศีลเรียบร้อย ครเราเมื่อบำเพ็ญศีล ถือศีลกินเจ จะหมายถึงได้สละความโลภโกรธหลงไปแล้ว นำไปสู่ความพร้อมเรื่องคู่ครอง คือ การแต่งงาน ซึ่งมักจัดพิธีแต่งงานกันในฤดูหนาว ตรงกับเดือน 10 เดือน 11 และ เดือน 12 ของจีน ที่เป็นช่วงปลายของฤดูธาตุทอง หรือ เป็นเดือนธาตุน้ำ สาเหตุอีกประการที่คนจีนนิยมแต่งงานในเดือนธาตุน้ำ เนื่องจากธาตุน้ำคือ ความขาว และ ความหนาวเย็นจะมาทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศธาตุน้ำ ช่วงการแต่งงานนี้เอง ประมาณเดือนธันวาคม หรือ เดือน 11 ของจีน ถือว่าเป็นช่วงฤดูสุดท้าย เป็นช่วงการเปลี่ยนนักษัตรใหม่ของจีน ซึ่งยังอยู่ในฤดูหนาว จึงเกิดการไหว้สาร์ทที่ 8 คือ การไหว้ขนมอี๊ หรือ ขนมบัวลอยขึ้น ในอดีต สาเหตุการไหว้เจ้าด้วยขนมบัวลอย เนื่องจากขนมนี้มันทำมาจากแป้งข้าวเจ้า เมื่อปั้นเป็นลูกนำมารับประทานจะอยู่ท้องได้ดี เพราะสาร์ทที่ 8 นี้เป็นช่วงอากาศหนาว ยิ่งตอนกลางคืนอากาศจะยิ่งหนาว หากกินอาหารที่ไม่อยู่ท้องจะทำให้รู้สึกหิว แล้วตื่นบ่อย ๆ แต่ถ้าได้กินอาหารที่อยู่ท้อง เราก็จะไม่หิวและหลับได้สบาย
เทศกาลไหว้ขนมบัวลอย ยังเป็นช่วงเปลี่ยนนักษัตรใหม่ของจีน แต่ไม่ใช่วันตรุษจีน เพราะการฉลองปีใหม่ของปีนักษัตร จะเริ่มในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาว ลมหนาวจะมาจากทิศเหนือในวันที่ 21 และ 22 ของเดือนธันวาคม ทำให้คนทั่วไประลึกว่าอากาศจะหนาวเย็นแล้ว คนจีนจึงไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้คุ้มครองสัตว์เลี้ยงและพืชผลทางการเกษตร ให้เพาะปลูกได้ดี และ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง อีกทั้งทำให้รับรู้ว่ากำลังจะหมดไปอีกหนึ่งปีแล้ว อายุมากขึ้น โตขึ้น ส่วนคนที่ยังดวงไม่ดี ถ้าไหว้เจ้าวันนี้ก็หมดเคราะห์ จะได้พบกับปีใหม่ที่ดี
สาร์ทการไหว้ด้วยขนมบัวลอย จะตั้งโต๊ะเครื่องบวงสรวงไหว้ในบ้าน หรือ นอกบ้านก็ได้ แต่ตามหลักจีนโบราณจะตั้งโต๊ะเครื่องบวงสรวงไหว้นอกบ้าน โดยต้องตั้งเครื่องบวงสรวงไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านก่อน จึงมาตั้งไหว้กลางแจ้งนอกบ้าน โดยอาจจุดธูป 3 , 5 , 10 ดอก
เครื่องเซ่นไหว้ที่ใช้สำหรับไหว้สาร์ทที่ 8 จะเป็นอาหารคาวหรืออาหารเจก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องมีไหว้ขนมบัวลอย โดยใช้อาหารไหว้ 4 อย่าง อันหมายถึงไหว้ครบ 4 ฤดูกาล หรือ ใช้อาหารไหว้ 5 อย่าง อันหมายถึงไหว้ให้ครบ 5 ธาตุ เครื่องเซ่นไหว้ประกอบไปด้วย
อาหารคาว 5 อย่าง , ขนมบัวลอย 5 ถ้วย
ผลไม้ 5 อย่าง , น้ำชา 5 ถ้วย , เครื่องบรรณาการต่าง ๆ