ในยุคก่อนมนุษย์อาศัยธรรมชาติในการใช้ชีวิตประจำวัน มีเพียงแสงสว่างจากดวงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ที่คอยส่องนำทาง และเมื่อมนุษย์รู้จักการล่าสัตว์และการจุดไฟ ก็เริ่มใช้แสงไฟจากการเผาฟืนเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น
แสงไฟหรือแสงจากกองฟืนอาจมีควันไฟที่ลอยเข้ามาใกล้ที่อยู่อาศัย ทำให้มนุษย์ต้องจุดกองไฟให้ห่างจากบ้านเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิต จึงต้องมีแหล่งรวมพลังงานไฟฟ้าที่เรียกว่า “หม้อแปลงไฟฟ้า”
หม้อแปลงไฟฟ้าสามารถเปรียบเสมือนกองฟืน หากอยู่ใกล้บ้านอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือความปลอดภัยได้ อีกทั้งยังมีกระแสพลังงานไฟฟ้าที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ ดังนั้น ควรวางหม้อแปลงไฟฟ้าให้ห่างจากตัวบ้านมากที่สุด
ในด้านฮวงจุ้ย การมีหม้อแปลงไฟฟ้าหรือกองไฟใกล้บ้านอาจส่งผลเสียต่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะหากทิศทางของลมพัดพาควันหรือกระแสพลังงานเข้ามารบกวนในบ้าน ดังนั้น การกำหนดทิศทางของหม้อแปลงไฟฟ้าจึงมีความสำคัญ หากหม้อแปลงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านและมีถนนตัดผ่าน ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านมาก เพราะกระแสพลังงานจะถูกสลายให้เบาบางลง
เพื่อความสบายใจของทุกคนในบ้าน ซินแสหลายท่านแนะนำให้ปิดกั้นการไหลของกระแสพลังงานจากหม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อไม่ให้เข้ามาในบ้าน แม้ว่าจะเป็นเพียงการแก้ไขเพื่อความสบายใจ แต่นั่นถือว่าเป็นวิธีที่ยอมรับได้และไม่ผิดหลักฮวงจุ้ยแต่อย่างใด