ในสมัยโบราณ ชาวบ้านทั่วไปในประเทศจีนไม่ค่อยมีบันไดขึ้นบ้านชั้นสอง ยกเว้นในบ้านของผู้ที่มีฐานะสูงหรือมีตำแหน่งทางราชการ ซึ่งสามารถสร้างบ้านที่ใหญ่โตและมีบันไดภายในได้ สำหรับในประเทศไทย เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลและมีโอกาสน้ำท่วมบ่อย การยกใต้ถุนบ้านให้สูงเป็นเรื่องปกติ บันไดในยุคนั้นจึงมักจะถูกสร้างให้เดินขึ้นไปด้านบนตรง ๆ ไม่มีการเวียนซ้ายหรือขวา เพราะง่ายต่อการขึ้นลงและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างบ้านก็ทำให้บ้านมีหลายชั้นมากขึ้น ความจำเป็นในการมีบันไดเพื่อเชื่อมต่อระหว่างชั้นจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เรื่องการออกแบบบันไดเวียนซ้ายหรือขวาไม่ได้มีความสำคัญมากเท่ากับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินขึ้นลงบันได
บางคนอาจจินตนาการว่า บันไดเวียนขวาตามเข็มนาฬิกาคือพลังหยาง ส่วนบันไดเวียนซ้ายทวนเข็มนาฬิกาคือพลังหยิน ความเชื่อนี้ไม่ต่างจากการนับจำนวนขั้นบันไดเป็นเลขคี่หรือเลขคู่ แล้วเชื่อมโยงกับพลังงานหยินหยาง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าบันไดควรจะเวียนขวาเสมอเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองตามความเชื่อที่ว่าการเคลื่อนไหวตามเข็มนาฬิกาคือการก้าวไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การออกแบบบันไดตามศาสตร์ฮวงจุ้ยที่แท้จริงนั้นควรเน้นที่ความเหมาะสมกับการใช้งานจริงของมนุษย์ ไม่ควรยึดติดกับความเชื่อหรือจินตนาการที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หรือเหตุผลที่รองรับ การออกแบบบันไดควรให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และการเข้ากันได้กับโครงสร้างบ้านมากกว่าการเน้นที่ทิศทางการเวียนของบันได
สรุปแล้ว บันไดเวียนซ้ายหรือขวาไม่ได้มีผลต่อพลังงานหรือความเจริญรุ่งเรืองของบ้าน ความสำคัญอยู่ที่การออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงและสร้างความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย การเลือกทิศทางการเวียนของบันไดควรพิจารณาตามความสะดวกในการใช้งานและความเหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ใช่การยึดติดกับความเชื่อที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด