เทศกาลกินเจเกิดขึ้นในช่วงเดือน 9 ของจีน ประมาณเดือนตุลาคม ช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 9 ไปจนถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ของจีน เหมาะสำหรับนั่งสมาธิเพื่อทำให้จิตใจสบาย จึงเหมาะแก่การกินเจ เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลของการถือศีลบำเพ็ญตน ให้ละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อทำให้ตัวเองมีสมาธิสูง มีจิตใจที่แข็งกล้า เป็นคนที่มีอำนาจจิตที่ดี เรื่องทุกข์ เรื่องโรคภัยก็จะไม่มี

วิธีปฏิบัติในเทศกาลกินเจ คือ ก่อนหน้าการกินเจหนึ่งวัน คนจีนจะเริ่มกินเจ หรือไม่กินเนื้อสัตว์ล่วงหน้า และไม่กินอาหารที่มีกลิ่นฉุน กลิ่นคาว จำพวก ต้นกระเทียม ผักชี ต้นหอม ไข่ นม เนย เพราะถือเป็นการล้างร่างกายของตัวเอง ดั่งเห็นได้จากเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ ท่านก็กินเจกัน เพื่อทำให้มีอิทธิฤทธิ์เต็มที่ มีตบะสูงเต็มที่ ฟันแทงไม่เข้า เนื้อหนังแข็งแกร่ง

ดังนั้น หากกินเจทั้งหมด 12 วันได้จะยิ่งดี คือ กินก่อนวันกินเจ 1 วัน ช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน และ หลังวันกินเจ 2 วัน ถ้าสามารถกินเจครบกำหนด 12 วัน มันจะเป็นตบะที่ดี และเป็นอานิสงฆ์สำหรับเรา เพราะเราสามารถชนะใจตัวเองโดยที่ไม่ไปเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่น

ในขณะที่กินเจ ถ้าทำสมาธิควบคู่ไปด้วยจะรู้แจ้งว่า คนเราไม่ควรไปเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ในเมื่อเราเป็นมนุษย์ เราต้องดำรงชีวิต เราจึงต้องกินเนื้อหนังมังสาของสิ่งมีชีวิตอื่น ตามหลักการเกิดมาของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง มันเป็นไปตามกาลเวลา คนเราเกิดมาตามชะตากรรม ชะตา คือ ชีวิตที่กำเนิดขึ้นมา กรรม คือ สิ่งที่เราต้องเจอ เราจึงเกิดมาตามเวลาที่ต้องใช้บุญและกรรม เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจึงต้องดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ เรากินเนื้อสัตว์ไปแสดงว่า สัตว์ตัวนั้นหมดอายุขัย เราก็ควรแผ่กุศลจิตให้เขา โดยการกินเจ และ อุทิศส่วนกุศลทางสมาธิจิตให้เขา

นอกเหนือจากนี้ เทศกาลกินยังมีการลอยกระทงในวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ของจีนในเวลาเย็นก่อน 1 ทุ่ม เพื่อส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ จึงเห็นได้ว่า วันนี้ที่ภูเก็ต คนจีนจะไปปล่อยโคมไฟที่ทะเล หรือ ทำกระทงลอยไปในแม่น้ำ เพื่อส่งให้เจ้าขึ้นสวรรค์ หลังจากส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ก็เป็นอันเสร็จพิธีของเทศกาลกินเจ ทุกคนสามารถกินอาหารตามปกติได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักกินเนื้อสัตว์หลังจากการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ แต่จะให้ดีควรกินเนื้อสัตว์หลังเที่ยงคืนไปแล้วบางคนกินเนื้อสัตว์ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น หรือ ตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้นก็มี